หนอกคอ (Buffalo Hump)
รูปร่างเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล้วนแล้วแต่อยากจะมีรูปร่างและสัดส่วนที่ดูดีเพื่อเสริมสร้างทั้งบุคลิกและความมั่นใจให้ตัวเอง เพราะฉะนั้นการมีสัดส่วนที่เกินพอดีจึงเรียกได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการมีไขมันส่วนเกิน สะโพกใหญ่ เอวหนา แขนขาตัน แต่ทว่าปัญหาเหล่านี้ยังไม่น่าหนักใจเท่ากับ การมีหนอกก้อนโตปูดนูนขึ้นมาบริเวณต้นคอที่ยากต่อการปกปิดหรือกำจัด
หนอกคอ (Buffalo Hump)
หนอกคอ หรือภาษาอังกฤษคือ Buffalo Hump เป็นภาวะที่มีไขมันสะสมอยู่บริเวณหลังคอเป็นจำนวนมากจนเกิดเป็นหนอกขนาดใหญ่ขึ้นมา เป็นก้อนเนื้อและไขมันบริเวณกลางหลังไหล่สองข้างที่นูนขึ้นมาบริเวณต้นคอ ที่สำคัญเป็นก้อนเนื้อไขมันที่เห็นเด่นชัดและปิดบังได้ยาก จนอาจทำให้เสียบุคลิกภาพได้ ถึงอย่างนั้นการมีหนอกคอแม้จะไม่ได้สร้างความเจ็บปวด หรืออาจดูเป็นเรื่องผิวเผินเล็กน้อย แต่ทว่าที่จริงแล้วอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกได้ถึงความผิดปกติจากโรคบางอย่างที่เราไม่อาจคาดคิด ดังนั้นทางที่ดีเมื่อสังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดกับร่างกายควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อจะได้ทำการรักษาต่อไป
ข้อควรรู้สำหรับผู้ที่ต้องการลดหนอกคอ
1.หนอกบริเวณหลังคอ หรือ Buffalo Hump ที่เกิดขึ้นไม่สามารถลดลงได้ด้วยการออกกำลังกาย
2.หนอกคอที่เกิดจากการเพาะกล้ามเป็นคนละอย่างกันกับ Buffalo Hump ซึ่งหากต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อที่เกิดจาการเพาะกล้ามสามารถทำได้โดยการงดใช้งานบริเวณนั้นก็จะทำให้กล้ามเนื้อกลุ่มนั้นฝ่อเหลวลงไปเอง
3.การเกิดหนอกคอแม้จะไม่ได้นำมาซึ่งความเจ็บปวด แต่หนอกที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติจึงจำเป็นต้องพบแพทย์
สาเหตุของการเกิดหนอกคอ แบ่งเป็น 2 สาเหตุใหญ่ๆ ได้แก่ สาเหตุและอาการของหนอกคอมีหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากน้ำหนักตัวสะสมมากเกินไป ระดับฮอร์โมนไม่สมดุลที่ส่วนใหญ่มาจากการรับปริมาณสเตียรอยด์มากเกินไป หรือผลข้างเคียงจากยาบางตัว เช่น ยารักษาโรคอ้วนตามใบสั่งแพทย์ หรือ ยาต้าน HIV และนอกจากนี้อาจมีสาเหตุมาจากโรคจำพวก โรคกระดูกพรุน กระดูกบางผิดปกติ โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
สาเหตุของการเกิดหนอกคอ
1.หนอกที่เกิดจากการสะสมไขมัน
1.1 หนอกที่เกิดจากความอ้วน
คนที่มีน้ำหนักตัวมากๆหรืออ้วนมากๆ มักจะมีไขมันสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกายรวมถึงบริเวณต้นคอ โดยจะสามารถสังเกตเห็นเป็นรอยพับด้านหลังคอได้อย่างชัดเจน
1.2 หนอกที่เกิดจากภาวะ Cushing Syndrome
คือการได้รับสเตียรอยด์เป็นเวลานานๆ จนทำให้เกิดความผิดปกติในร่างกาย โดยอาจจะมาจากการรับประทานยาหม้อ ยาลูกกลอนติดต่อกันเป็นเวลานานโดยจะสังเกตเห็นอาการได้ชัดเจนเช่น ได้แก่ การมีภาวะอ้วนเฉพาะร่างกายส่วนบน หน้ากลมมนเป็นพระจันทร์ (moon face) หน้าแดง กล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง ผิวหนังมีสีคล้ำขึ้น ชั้นผิวหนังบางขึ้น เกิดเป็นจ้ำเลือดได้ง่ายเมื่อถูกกระแทกแรงๆ แผลหายช้า อารมณ์แปรปรวน รวมถึงการมีไขมันพอกพูนบริเวณไหปลาร้าและต้นคอจนเหมือนหนอกควาย หรือ Buffalo Hump นั่นเอง
2. เกิดจากผลข้างเคียงจากการให้ยาต้าน HIV (โรคเอดส์)
โดยผู้ป่วยอาจมีอาการของโรคอื่นแทรกซ้อนด้วยได้แก่ เบาหวาน ไขมัน ในเลือดสูงและทำให้เกิดความผิดปกติในการกระจายตัวของไขมันในร่างกาย โดยไขมันตามแขนขาจะหายไป แต่กลับไปสะสมที่บริเวณหน้าท้อง เอว ไหล่ และหนอกคอแทน
3. หนอกที่เกิดจากการภาวะหลังค่อม
พบได้ในคนสูงอายุ เนื่องจากหมอนรองกระดูกสันหลังเริ่มเสื่อมสภาพและฝ่อตัวลงประกอบกับมวลกระดูกของกระดูกสันหลังแต่ละปล้องมีมวลกระดูกที่บางลง ซึ่งเมื่อถูกแรงกระแทกก็ทำให้กระดูกมีการทรุดตัวเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะหลังค่อมขึ้นมาได้
ปัญหาและอันตรายจากหนอกหลังคอ โดยทั่วไปหนอกหลังคอจะไม่มีอันตรายแต่การมีก้อนเนื้อบริเวณต้นคอก็ทำให้มีข้อเสียอยู่บ้าง
1. เสียบุคลิกภาพและหาชุดใส่ปิดบังยาก
2. หากปล่อยจนหนอกมีขนาดใหญ่ขึ้น อาจส่งผลเสียต่อกระดูกต้นคอ ท่ายืน
3. ถ้าโดนคนอื่นทักจากสิ่งที่นูนออกมาจากแถวท้ายทอย อาจทำให้เกิดความเครียดได้ หรือสูญเสียความมั่นใจได้
นอกจากนี้ปัญหาของหนอกหลังคออาจจะมาพร้อมกับอาการอื่นๆที่นับว่าสร้างปัญหาให้กับผู้ที่มีหนอกหลังคอไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการมีสิวบริเวณใบหน้าหรือส่วนต่างๆ การปวดหลัง การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ระดับน้ำตาลในเลือดสูง การเจริญเติบโตของเส้นผมมากเกินไป กระหายอยู่ตลอดเวลา หน้าแดงและบวม ปัสสาวะบ่อย แพ้กลูโคส ความดันโลหิตสูง การเปลี่ยนแปลงของประจำเดือน อ้วนขึ้น ใบหน้ากลมเป็นรูปพระจันทร์อ่อนแอไม่ค่อยมีแรงแต่อย่างไรก็ดีเมื่อสังเกตพบความผิดปกติในร่างกายควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อจะได้ทำการรักษาต่อไป
การตรวจวินิจฉัย เมื่อเกิดเป็นหนอกคอขึ้น สิ่งที่คนไข้ควรทำได้แก่การไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของโรคที่อาจซ่อนอยู่ โดยปกติแพทย์จะทำการพิจารณาจากลักษณะของเนื้อที่ปูดนูนออกมา โดยการใช้เครื่องมือตรวจวัดการกระจายตัวของไขมันว่ามีส่วนไหนที่เป็นไขมันส่วนเกินสะสมอยู่บ้างและมีปริมาณเท่าไหร่ แต่หากตรวจดูแล้วพบว่าส่วนที่ปูดโปนออกมานั้นเกิดจากการทรุดตัวของกระดูก แพทย์ก็จะทำการเอ็กซเรย์ตรวจมวลกระดูกและนัดทำการรักษาต่อไป ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาสาเหตุเพื่อจะได้ทำการรักษาให้ตรงจุด
แนวทางการรักษาหนอกคอ
การรักษาหนอกคอสามารถแบ่งออกเป็น 4 วิธี คือ
1.การรักษาโดยการดูดไขมัน
2. Liposlim
3.การรักษาโดยเทคนิค LipoGold Therapy
4.การรักษาโดยการซ่อมกระดูกอันเนื่องมาจากภาวะกระดูกพรุน
1.การรักษาโดยการดูดไขมัน
1.1 Vaser Lipo Selection
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ในการสลายก้อนไขมัน ทำให้ก้อนไขมันแตกตัวและกลายเป็นของเหลวและอ่อนนุ่ม ทำให้สามารถดูดออกจากร่างกายได้โดยง่าย
1.2 Body Tite
เป็นเทคโนโลยีการดูดไขมันที่ใช้พลังงาน RF หรือคลื่นวิทยุ สามารถกำจัดไขมันออกไปในปริมาณที่มาก และยังสามารถทำให้ผิวหนังกระชับหดตัวไม่หย่อนคล้อย
โดยทั้ง 2 วิธีนี้ เป็นการช่วยให้ไขมันบริเวณหนอกคอถูกกำจัดออกไปอย่างนุ่มนวล โดยไม่ทำให้เส้นเลือดและเซลล์ประสาทบริเวณโดยรอบเกิดความบอบ นอกจากนี้หลังจากการดูดไขมันร่างกายจะมีการปรับตัว โดยจะค่อยๆ ดูดซึมน้ำเหลืองออกไป และสร้างพังผืดขึ้นมาแทนซึ่งพังผืดก็จะมีการหดตัว มีผลทำให้ชั้นใต้ผิวหนังกับกล้ามเนื้อติดกันมากขึ้น แต่ทั้งนี้ในกรณีที่หนอกคอที่มีขนาดใหญ่มากชนิดปูดนูนเป็นก้อนจนเห็นได้ชัด นอกจากการรักษาด้วยวิธีดูดไขมันแล้ว อาจมีการรักษาโดยการตัดหนังส่วนที่เหลือทิ้งไปร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นยาวบริเวณด้านหลังคอ ซึ่งรอยแผลจะมากหรือน้อยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีการผ่าตัดของแพทย์
2. Liposlim
เป็นเทคโนโลยีที่ไม่เพียงแต่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินตามสัดส่วนที่เราต้องการ แต่ยังเป็นการกำจัดส่วนเกินได้แบบถาวรไม่ใช่เพียงแค่ทำให้เซลล์ไขมันเล็กลง ทั้งนี้ยังสามารถกระชับผิวในบริเวณที่ทำการรักษา และในระหว่างทำจะไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดไม่มีบาดแผล และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
3.การรักษาโดยเทคนิค LipoGold Therapy
เป็นการลดไขมันส่วนเกินโดยการฉีดสารหลักๆ เช่น Phosphatidyl choline, L-carnitine เข้าไปยังบริเวณที่มีการสะสมของไขมัน เพื่อกระตุ้นให้ไขมันที่สะสมสลายตัว โดยปริมาณที่ฉีดก็แล้วแต่บริเวณที่ต้องการ เช่น อาจจะใช้ 0.2-0.5 ซีซี ห่างกันทุกๆ 1.2 ตร.ซม. โดยฉีดลึกเข้าไปในชั้นไขมันตั้งแต่ 0.1 มม. – 12 มม.
ผลลัพธ์ที่ได้คือช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น และระบบต่อมน้ำเหลืองทำงานดีขึ้นเนื้อเยื่อโดยรอบบริเวณที่ฉีดแข็งแรงขึ้น ผิวหนังกระชับขึ้น
4.การรักษาโดยการซ่อมกระดูกอันเนื่องมาจากภาวะกระดูกพรุน
เป็นการรักษาโดยแพทย์จะทำการฉีดซีเมนต์ซ่อมกระดูก (Bone Cement) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ในการเติมเต็มกระดูก ทำให้กระดูกหนาตัวขึ้น และเมื่อสารนี้แข็งตัวก็จะเป็นการตรึงกระดูกไม่ให้ยุบตัวลงไปเบียดไขสันหลัง อันเป็นสาเหตุของการปวดหลัง ผลจากการหนาตัวขึ้นของกระดูกจากการฉีดสารซีเมนต์ทำให้กระดูกไม่ยุบตัวเพิ่มขึ้น และมีความแข็งแรงทนทานต่อการรับแรงกดจากน้ำหนักของร่างกายได้ดียิ่งขึ้นนั้นเอง
การกำจัดหนอกคอ เป็นการศัลยกรรมแก้ไขความผิดปกติที่ไม่มีความซับซ้อนมากนัก แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่การตรวจหาสาเหตุการเกิดของโรคที่แท้จริง การแก้ไขความปูดนูนที่ผิดปกติด้วยวิธีการดูดไขมันและวิธีต่างๆดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นเพียงการแก้ไขที่ปลายเหตุฉะนั้นเมื่อคอเกิดเป็นหนอกขึ้นมาแล้วก็ไม่ควรที่จะปล่อยทิ้งไว้การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยโรคจะช่วยให้การแก้ไขทำได้ถูกต้องตรงจุดและทำให้คุณเพื่อให้คุณมีลำคอที่ระหงสง่าและได้บุคลิกภาพที่ดีกลับมา
ทีมแพทย์สตาร์คลินิก มีประสบการณ์ด้านผิวพรรณและศัลยกรรมความงามมากกว่า 15 ปี
เปิดบริการทุกวัน เวลาทำการ 10.00 – 20.00 น.
ปรึกษาหรือสอบถามโปรโมชั่น โทร. 088-004-0005